โรคสมาธิสั้น

มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Attention Deficit Disorder (ADD) หรือ Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) เป็นสภาวะซึ่งมีการพูดถึงกันมาก จนทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวล สับสนเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้ ซึ่งบางครั้งอาจมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เกิดเป็นความเชื่อหรือความเข้าใจที่ผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง ซึ่งพอจะรวบรวมมาไว้ คือ…

1.เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น จะต้องซนมาก

แต่ก็มีเด็กอีกจำนวนมากที่มีสมาธิสั้น ถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย ไม่สามารถมีสมาธิต่อการทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยที่ไม่มีอาการซนร่วมด้วย ดังนั้นบางคนจึงเรียกว่าเป็น Attention Deficit Disorder (ADD) ในรายที่มีสมาธิสั้น แต่ไม่ซน และ ใช้คำว่า Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) กับสภาวะที่มีสมาธิสั้น ร่วมกับการซนมาก ไม่อยู่นิ่ง

2.โรคสมาธิสั้นนี้จะดีขึ้น และหายได้เอง เมื่อโตขึ้น แม้ได้รับการรักษา

แม้เด็กที่มีสมาธิสั้น เมื่อโตขึ้นและมีวุฒิภาวะมากขึ้น ดูเหมือนจะปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หายเป็นปกติเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือ ของคุณพ่อคุณแม่ คุณครูและคนรอบข้าง ที่เข้าใจเขา ซึ่งจะช่วยให้เขาปรับตัวได้ดีขึ้น สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคม และดำเนินชีวิตประจำวันได้ โดยไม่เป็นปัญหาหรือภาระกับใคร

3.การรักษาด้วยยา ริตาลิน (Ritalin) จะช่วยให้เด็กหายเป็นปกติ

โดยช่วยให้เด็กมีสมาธิดีขึ้นและซนน้อยลงในเด็กหลายราย ทำให้สามารถกลับเข้าเรียน และมีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในห้องเรียนได้ แต่ก็ยังต้องทำควบคู่ ไปกับการรักษาที่ครอบคลุมในด้านอื่นๆ ด้วย โดยการปรับพฤติกรรม ทั้งที่บ้าน และที่โรงเรียน เช่น การจัดการเรียนการสอน ( Academic support) ให้เหมาะสมกับเด็ก และการทำพฤติกรรมบำบัด (Behavior-modification treatment) โดยการเข้ากลุ่ม เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ การควบคุมตนเอง และมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนได้

4.ลูกมีสมาธิสั้นและซนมาก ไม่ได้เกิดจากพ่อแม่ที่ตามใจลูกจนเหลิง

การเกิดโรคสมาธิสั้นนั้น เป็นจากความผิดปกติของสมองของเด็ก ในระดับการทำงานของเซลล์สมอง (Biochemical condition) ที่จะทำงานประสานกันอย่างซับซ้อน เพื่อให้มีพฤติกรรมที่เป็นที่ยอมรับได้ในสังคม หลายครอบครัวที่ลูกมีปัญหาสมาธิสั้นนั้น เป็นครอบครัวที่มีระดับการศึกษา และสติปัญญาดี และมีการดูแลเลี้ยงดูลูกอย่างดี มีการเอาใจใส่อบรมเลี้ยงดู อย่างเหมาะสมมาตลอด แต่ลูกก็ยังเป็นโรคสมาธิสั้น

5.การทานยา ริตาลิน ไม่ทำให้เด็กหยุดการเจริญเติบโต

แม้ว่าจะมีความเชื่อว่า ยา ริตาลิน จะทำให้เด็กไม่เจริญเติบโตสมวัย แต่จากการติดตามดูการเจริญเติบโตของเด็ก ที่ต้องทานยา ริตาลินเป็นเวลานานๆ พบว่า เด็กเหล่านี้สามารถมีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย (โดยเฉพาะส่วนสูง) เมื่อเข้าสู่ช่วยวัยรุ่นที่เป็นปกติ แม้ว่าเขาจะยังทานยานั้นอยู่ก็ตาม

6.เด็กที่มีสมาธิสั้นสามารถทำกิจกรรมต้องการสมาธิสำเร็จได้

แม้ว่าเด็กที่มีสมาธิสั้นอาจไม่ชอบการทำอะไรที่ซ้ำๆ น่าเบื่อ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมสมาธิให้ติดตามได้ตลอด แต่เด็กจะสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่เขาชอบได้ดี จึงต้องมีคุณพ่อคุณแม่ และคุณครูที่เข้าใจในภาวะที่เขาเป็น และช่วยเหลือเขา ในการจัดกิจกรรม และการเรียนการสอน ที่เหมาะสมแก่เขา พบว่าผู้ใหญ่หลายคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการเมือง นักธุรกิจ ศิลปิน เมื่อตอนเด็กเคยเป็นโรคสมาธิสั้น แต่จากการที่เขาได้รับการช่วยเหลือดูแลที่ถูกต้อง ทำให้เขาสามารถปรับตัว และประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงานที่เขาทำได้ และยังพบว่าคนเหล่านี้ อาจมีความกระตือรือร้น และความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นพิเศษกว่าคนอื่นด้วย

สมาธิสั้นจึงเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายและใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ  แค่ต้องรับการช่วยเหลือและดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธีเท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก healthandtrend.com