• 30 กันยายน 2019 at 13:45
  • 3014
  • 0

 

ทำความรู้จักกับ 10Q พื้นฐานสู่อนาคตที่ดีของเด็กกันค่ะ

 

1.IQ (Intelligence Quotient)

มาเริ่มต้นกันด้วย Q แรกที่เราคุ้นเคยกับมันมานานและรู้จักกับมาดีกันพอสมควรแล้วแต่ก็ขออนุญาตแนะนำกันอย่างเป็นทางการนิดนึงว่ามันคือ “ความฉลาดทางสติปัญญา” นั่นเองและเราก็มักจะเห็นแบบทดสอบมากมายที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้เราได้วัด IQ กัน

โดยถ้าเป็นคนปกติก็จะมี IQ กันอยู่ที่ประมาณ 90-110 แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนทำแบบทดสอบกันแล้วมี IQ ที่สูงกว่านี้ก็คาดว่าน่าจะโดดเด่นในด้านสติปัญญามากแน่นอนและมันน่าจะส่งผลไปถึงลูกๆ ของคุณได้อีกด้วย

แต่ความฉลาดทางสติปัญญานั้นแบ่งออกเป็นหลากหลายด้านไม่ใช่แค่ความฉลาดในส่วนของวิชาการเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา การเข้าใจตนเอง ก็นับรวมเป็นความฉลาดทางสติปัญญาหรือ IQ ด้วยเช่นเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่เพียงแค่ต้องคอยสังเกตและเข้าใจความฉลาดทางสติปัญญหาของลูกให้ถูกต้องกับสิ่งที่เขามีและเป็นเท่านั้นเอง

2.EQ (Emotional Quotient)

ความฉลาดทางอารมณ์ก็เป็นอีกหนึ่ง Q ที่เราคุ้นเคยกันดีซึ่งมันคือความสามารถในด้านการจัดการกับอารมณ์และควบคุมมันรวมทั้งยังเป็นในเรื่องของความสามารถในการแสดงพฤติกรรมต่างๆ อีกด้วย สังเกตได้ง่ายๆ ว่าถ้าเด็กๆ ค่อนข้างจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนนี่ก็เป็นแววบอกได้ว่าเขาค่อนข้างมี EQ ที่ดีนั่นเอง

 

ความสำคัญของ Q ตัวนี้คือคนที่มีอยู่สูงจะสามารถทำงานเป็นทีมได้ดี มีความคิดอยากจะทำในสิ่งดีๆ เข้าอกเข้าใจคนอื่นและมีความเห็นใจคนอื่นๆ รวมทั้งมีความอ่อนโยนอยู่ในตัวมากอีกด้วย เขาจะสามารถควบคุมพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นในแนวทางที่อยู่ร่วมกับสังคมได้ดีนั่นเอง

3.MQ (Moral Quotient)

เริ่มไม่ค่อยคุ้นกันแล้วและอยากจะแนะนำให้รู้จักกับ “ความฉลาดทางคุณธรรม” บอกไว้ก่อนเลยว่า Q ตัวนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังให้กับลูกได้ตั้งแต่ยังเล็กเพื่อที่จะให้มันซึมซับและค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาได้ในอนาคตนั่นเอง
สิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการปลูกฝังไปเรื่อยๆ และผลผลิตของมันก็คือจะทำให้ลูกของคุณนั้นมีความสามารถในการทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างเป็นนิสัย เริ่มกันตั้งแต่การพูดจา กริยามารยาท มีกาลเทศะ ความคิดดีมีคุณธรรม เชื่อมั่นใจความถูกต้องจนแสดงออกมาเป็นตัวตนของพวกเขากันเลยทีเดียว

4.SQ (Social Quotient)

ความฉลาดในด้านการเข้าสังคม นี่คือสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเติบโตเพราะอย่างไรก็ตามมนุษย์เป็นสัตว์สังคมเด็กๆ ควรจะมีความสามารถในด้านนี้เพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในอนาคต โดยจริงๆ แล้ว SQ จะค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับ EQ แต่จะเน้นไปในส่วนของกายภาพในการเข้าสังคมด้วย พูดกันง่ายๆ ก็เป็นเหมือนภายนอกของคนเรานั้นเองที่จะเริ่มดูความมี SQ กันตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม การพูดจาและวางตัวในสถานการณ์ต่างๆ

มีการวิจัยออกมาแล้วว่าคนที่มี SQ ดีนั้นจะสามารถเข้าใจและบรรลุเป้าหมายต่างๆ ได้เป็นอย่างดีรวมทั้งเข้ากับคนอื่นได้ดีและสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้ดีอีกด้วย เขาจะมีบุคลิกที่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์และทำให้ได้รับความไว้วางใจจากคนหมู่มากอีกด้วย

5.CQ(Creativity Quotient)

นี่คือความฉลาดในด้านของความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ถ้าเด็กๆ มี Q นี้ในตัวอยู่แล้วล่ะก็การพัฒนาความสร้างสรรค์ในอนาคตของเขาจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายเลยทีเดียว จุดนี้บ่งบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีจินตนาการดี ซึ่งเป็นส่วนความฉลาดที่จะพัฒนาอยู่ในสมองซีกขวาของคนเรานั่นเอง

ไอเดียที่ผุดขึ้นมาบ่อยๆ นั้นมักจะเป็นสิ่งที่มาคู่กับ CQ มันคือความสามารถภายในที่เมื่อมีพฤติกรรมที่ถูกจุดกับมันก็จะสามารถเป็นบ่อเกิดของไอเดียได้ เช่น ถ้าลูกของคุณนั่งอยู่เฉยๆ นิ่งๆ ไม่มีภาวะกดดันอะไรมากนักแล้วเขาสามารถสร้างสรรค์และคิดไอเดียอะไรขึ้นมาอวดคุณได้นั้น ก็คือว่าเขาข่ายเด็กที่มี CQ ที่ดีแล้วเป็นต้น

6.PQ(Play Quotient)

แค่ชื่อก็ดูจะสนุกสนานกันมาทีเดียวกับ Q ตัวนี้และมันก็เป็นแบบนั้นเลยเพราะมันคือ “ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น” นั่นเอง แต่มันคือการเล่นที่เกิดขึ้นควบคู่กับการเรียนรู้ด้วยนั่นเองและทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหันมาเข้าใจคำว่าเล่นกันใหม่แล้วเพราะว่าต่อไปนี้การปล่อยให้เขาได้เล่นมันคือการพัฒนาศักยภาพของเขาให้ผุดออกมานั่นเอง แต่ก็ต้องคอยดูแลให้ขอบเขตของการเล่นเป็นไปอย่างเหมาะสมด้วยนั่นเอง

หากลูกยังเล็กเมื่ออยู่บ้านก็ควรมี Family Time เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้หยิบยกสิ่งต่างๆ ออกมาให้ลูกได้เล่นเพื่อที่จะเรียนรู้หลังจากนั้นเมื่อเขาเริ่มเติบโตก็ปล่อยให้เขาได้ไปโรงเรียนไปเล่นกับเพื่อนๆ การเรียนรู้และพัฒนา PQ ก็จะค่อยๆ เติบโตไปพร้อมกับลูกและการมี PQ ที่ดีก็มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตเด็กๆ จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานได้ดีด้วยเช่นกัน

7.AQ(Adversity Quotient)

นี่คงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะให้ลูกๆ มีติดตัวกันเอาไว้แน่นอนเพราะมันคือ “ความสามารถในการเอาชนะอุปสรรค” การจะมี AQ นั้นก็มีผลมาจากหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงดูและสั่งสอนให้ลูกได้รู้จักกับความอดทนตั้งแต่เล็กๆ และนี่คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คว้าความสำเร็จมาสู่ตัวเองกันได้ เพราะมีความสามารถในการอดทนฝ่าฟันความลำบากและอุปสรรคต่างๆ ได้ดีนั่นเอง

8.HQ (Health Quotient)

สังเกตได้ว่าบางคนจะมีความรักความใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองกันมากๆ แสดงว่าพวกเขาน่าจะเป็นคนที่มี HQ หรือ ความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเอง ที่ดีนั่นเอง คนที่มี HQ ดีนั้นจะใส่ใจตั้งแต่เรื่องของที่อยู่อาศัย สภาวะแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นมิตรกับตัวเอง ต่อไปจนถึงเรื่องของอาหารการกิน ชอบออกกำลังกายและสรรหาวิธีดูแลตัวเองสารพัด แถมยังรู้จักผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย

นี่อาจจะยังเป็นสิ่งที่ยังมองไม่เห็นในตัวของลูกเพราะเขาอาจจะยังเด็กไปแต่เชื่อได้ว่ามันจะมีบางจุดที่คุณพ่อคุณแม่น่าจะพอสังเกตได้ว่าเขามี HQ ที่ดีหรือไม่แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังและใส่ใจเขาคอยสั่งสอนให้เขารักและดูแลสุขภาพตัวเอง “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” หันไปบอกลูกๆ เอาไว้ซะตั้งแต่ตอนนี้กันเลยดีกว่า

9.OQ (Optimist Quotient)

ความฉลาดในการมองโลก พร้อมรับและมองเห็นข้อดีของทุกเรื่องนี่คือคุณสมบัติของ OQ นั่นเอง การที่ลูกของคุณมี OQ นั้นจะทำให้เขามองเห็นคุณค่าของตัวเองและรู้จักให้ค่าคนอื่นๆ ด้วย นี่คือองค์ประกอบของจิตใจที่ดี เขาจะเป็นคนกล้าผิดกล้ารับ ยอมแก้ไขให้ดีและถูกต้อง ไม่ใช่การมองโลกสวยแบบไร้สาระแต่เขาจะมีเหตุผลและรู้จักกับการให้กำลังใจทั้งตัวเองและผู้อื่นด้วย

10.TQ (Thinking Quotient)

เดินทางกันมาถึง Q สุดท้ายที่เราจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกันในวันนี้แล้วซึ่งนั่นก็คือ ความสามารถในการคิด ซึ่งมันคือผลผลิตที่ออกมาเป็นความคิดที่ดีและมีคุณค่าอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีประโยชน์กับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมากแน่นอน เด็กๆ ที่มี TQ ที่ดีโตขึ้นแล้วจะมีการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ มีวิจารณญาณที่ดีและเหมาะสม รวมทั้งสามารถผสมผสานความคิดต่างๆ ออกมาได้ดีด้วย

TQ ช่วยให้ลูกสามารถเป็นคนที่แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดีในหลายๆ สถานการณ์ สามารถไตร่ตรองคิดพิจารณาถึงความถูกต้องเหมาะสมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และแน่นอนว่ามันจะเป็นประโยชน์กับทั้งตัวเขาเองและผู้อื่นด้วยนั่นเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก momandbaby.net