4 วิธีเลือกกระเป๋าให้ลูกรัก แก้ปัญหากระเป๋านักเรียนหนัก อันตรายที่ทำลายสุขภาพเด็กๆ

คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเคยได้ยินปัญหาเกี่ยวกับการสะพายกระเป๋านักเรียนหนักเกินมาตรฐานของเด็กไทยมาบ้าง ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่บางคนก็ยังมองว่าเป็นเรื่องเล็ก คุณพ่อคุณแม่อย่ามองข้ามความสำคัญของเรื่องนี้ไปนะคะ เพราะการแบกกระเป๋าหนักๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกได้ เราจึงรวบรวมเอาข้อแนะนำในการเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับลูกมาฝากค่ะ

ปัญหากระเป๋านักเรียนหนักไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะการที่เด็กๆ แบกกระเป๋าหนักมากกว่ามาตรฐานทุกวัน จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพของเด็กๆ ในหลายทาง เช่น

-กระดูกหลังคด หรือโค้งงอผิดปกติ

-ปวดไหล่และคอ

-เสี่ยงเตี้ยในระยะยาว

-เสียบุคลิกภาพ

-เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก เราจึงได้รวบรวมเอาคำแนะนำในการแก้ปัญหานี้มาฝากคุณพ่อคุณแม่ โดยให้คุณพ่อคุณแม่เลือกทำดังนี้ค่ะ

 

1. เลือกกระเป๋าสะพายหลัง

คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกกระเป๋านักเรียนที่เป็นกระเป๋าสะพายหลังให้เด็กๆ ใช้ เพราะกระเป๋าสะพายหลังที่มีสายสองข้างนั้น จะช่วยให้น้ำหนักมีความสมดุล และสะโพกก็จะช่วยรับน้ำหนักอีกทางหนึ่งด้วย

 

2. เลือกวัสดุที่ดี

คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกกระเป๋านักเรียนที่ทำจากวัสดุแข็งแรง และน้ำหนักกระเป๋าเบา เช่น เลือกเป็นผ้าที่มีคุณภาพดี จะดีกว่ากระเป๋านักเรียนหนังแท้ที่มีน้ำหนักมาก และดูแลยาก โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตว่า ลูกน้อยไม่แบกกระเป๋าจนเดินตัวเอียงข้างหนึ่ง และน้ำหนักกระเป๋าไม่ควรเกิน 10-15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวลูก

 

3. สังเกตสายกระเป๋า

ให้คุณพ่อคุณแม่เลือกกระเป๋านักเรียนที่สายกระเป๋าไม่เล็กจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการกดทับและปวดหลังได้ง่าย หากเลือกที่สายนุ่มและซับพอร์ทไหล่ด้วยจะดีมากค่ะ นอกจากนี้ สายของกระเป๋าไม่ควรยาวมากเกินไป โดยให้สังเกตว่าก้นกระเป๋าไม่ห้อยต่ำกว่าเอวของลูก และกระเป๋าควรแนบหลังพอดี

 

4. จัดกระเป๋าให้ถูกหลัก

อย่าลืมสอนลูกรักให้จัดกระเป๋าโดยบาลานซ์น้ำหนักกระเป๋าให้ดี ซึ่งหลักการก็ง่ายๆ แค่เลือกใส่ของที่มีน้ำหนักมากไว้ด้านในชิดกับแผ่นหลัง และเลือกใส่ของที่เบากว่าไว้ด้านนอก

เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเซฟสุขภาพของลูกรักจากการแบกกระเป๋าที่หนักเกินไปได้แล้วนะคะ ลองเอาข้อแนะนำของเราไปเป็นแนวทางแก้ปัญหาดูลูกจะได้มีสุขภาพแข็งแรง มีวินัย และมีบุคลิกภาพที่ดีด้วยค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.happymom.life